[FIC CONAN] MERRY CHRISTMAS
แล้วคุณไม่อธิษฐานอะไรหน่อยเหรอ? เด็กหญิงเอ่ยถาม อืม~ ขอให้เธอยอมลดอคติและยอมเชื่อใจฉันบ้าง...ล่ะมั้ง และคำตอบของเขาก็ทำเธอตะลึง ของแบบนี้...ขอกับตัวฉันเองตรงๆ เลยจะไม่ดีกว่าเหรอ?
ผู้เข้าชมรวม
1,892
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
“คริสต์มาสนี้จะมอบอะไรให้กับคนรักของคุณเหรอครับ?”
“ก็คงจะเป็นของทั่วๆ ไปอย่างเค้กนั่นแหละค่ะ”
เสียงของพิธีกรในรายการโทรทัศน์ที่กำลังเอ่ยถามคำถามทั่วๆ ไปเกี่ยวกับงานเทศกาลคริสต์มาสกับเด็กสาวนักเรียนไฮสคูล สามารถเรียกความสนใจของเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลอมแดงที่กำลังนั่งอ่านนิตยสารแฟชั่นอยู่ให้ละสายตาจากหนังสือขึ้นมาจ้องมองจอโทรทัศน์ หากแต่สิ่งที่เธอสนใจกลับไม่ใช่คำถามหรือคำตอบ แต่เป็นบรรยากาศของงานเทศกาลวันคริสต์มาสเบื้องหลังของพวกนั้นต่างหาก
ไฮบาระอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ นี่ถ้าหากว่าดอกเตอร์อากาสะไม่ติดงานเลี้ยงสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนนักประดิษฐ์แล้วล่ะก็...ป่านนี้เธอคงจะได้ไปเดินเที่ยวชมงานเทศกาลภายในเมืองแล้ว คงไม่ต้องมานั่งอ่านหนังสือแฟชั่นหรือติดตามสถานการณ์ของงานผ่านทางหน้าจอโทรทัศน์เช่นนี้
.
.
ความจริงแล้วไฮบาระก็อยากจะไปงานเลี้ยงสังสรรค์กับดอกเตอร์ด้วยเช่นกัน แต่น่าเสียดายที่งานเลี้ยงนั้นมีแต่คนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับดอกเตอร์ เขาจึงเกรงว่าจะเป็นการพาเธอไปทรมานเสียเปล่าๆ จึงเสนอทางเลือกให้เธอสองทาง หนึ่ง...ไปบ้านของอายูมิจัง และสอง...ไปอยู่ที่สำนักงานนักสืบโมริ
“ยังมีอีกข้อนะคะดอกเตอร์” เธอเอ่ยกับเขาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ และดอกเตอร์อากาสะเองก็จ้องกลับมาด้วยไม่เข้าใจว่าทางเลือกอีกข้อที่ว่าคืออะไร เด็กหญิงจึงเอ่ยตอบ “อยู่เฝ้าบ้านค่ะ”
ความประหลาดใจเกิดขึ้นในแววตาของดอกเตอร์ทันทีที่ได้ยินคำตอบของเธอ และไฮบาระก็พอจะรู้ว่าความประหลาดใจที่ว่านั้นมันมีต้นเหตุมาจากสิ่งใด
“ไอคุงกลัวการอยู่บ้านคนเดียวไม่ใช่เหรอ?”
ใช่... จะไม่ให้กลัวได้อย่างไร..? ในเมื่อข้างบ้านของเธอนั้นมีหนุ่มนักศึกษาปริญญาโทผู้ที่ไม่รู้ว่าประสงค์ดีหรือประสงค์ร้ายกันแน่อาศัยอยู่ และที่สำคัญคือบ่อยครั้งที่เธอรู้สึกเหมือนถูกสายตาที่อยู่ในบ้านหลังนั้นจับจ้องมองมา ถ้าเป็นไปได้เธอก็ไม่อยากจะอยู่บ้านคนเดียวหรอก แต่ทว่า..
เธอไม่อยากรบกวนงานฉลองวันคริสต์มาสของครอบครัวโยชิดะ และแน่นอนว่าเธอไม่อยากไปรบกวนเวลาแห่งความสุขของพ่อหนุ่มนักสืบมัธยมปลายตะวันออกและแม่สาวที่เขากำลังปิ๊งปั๊งกันอยู่หรอก
ดังนั้นแล้ว...การเลือกอยู่บ้าน อาจจะเป็นทางเลือกที่เธอคิดว่าดีที่สุดแล้ว
และทางดอกเตอร์เองก็เคารพในการตัดสินใจของเธอ แม้ว่าจะกังวลอยู่บ้างก็ตามที “งั้นฉันจะรีบไปรีบกลับนะ” ดอกเตอร์กล่าวลาแล้วเดินไปยังโรงจอดรถ
ชั่วครู่เดียวไฮบาระก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์แล่นออกจากบ้านไป เด็กสาวถอนหายใจน้อยๆ ก่อนจะตริตรองว่าควรจะพาตัวเองไปขังไว้ที่ห้องใต้ดิน หรือจะนั่งอยู่ในห้องรับแขกดี คิดไปคิดมา...สุดท้ายเธอก็เลือกพาตัวเองมานั่งลงบนโซฟาในห้องรับแขก แล้วเปิดโทรทัศน์ดูรายการที่กล่าวถึงงานเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส
.
.
“น่าเบื่อจริงๆ” ร่างเล็กพึมพำ การนั่งมองภาพบรรยากาศความสวยงามของงานคริสต์มาสทำให้เธออยากจะออกไปเดินเที่ยวชมงานเสียเหลือเกิน หากแต่การไปคนเดียวนั้น...มันก็ออกจะเกินความสามารถของคนขี้ขลาดอย่างเธอไปเสียหน่อย เด็กหญิงจึงได้แต่ส่ายหน้าไปมา แล้วลุกเดินไปยังห้องครัวเพื่อหากาแฟร้อนๆ สักแก้วมาดับอารมณ์ที่อยากจะออกไปข้างนอกของตัวเอง
ออด
เสียงออดที่หน้าประตูดังขึ้น ไฮบาระเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมแก้วกาแฟในมือ ร่างเล็กขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ เสียงออดไม่ได้ดังที่ประตูรั้ว...แต่ดังที่ประตูหน้าบ้านนี้เอง แสดงว่าคงจะต้องเป็นคนที่รู้จักและสนิทชิดเชื้อกับดอกเตอร์มากพอที่จะกล้า(ไร้มารยาท)เดินเข้ามาถึงหน้าประตูได้... ใครกันนะ ? เธอคิด ก่อนจะเอาแก้วกาแฟไปวางไว้บนโต๊ะ แล้วเดินไปเปิดประตูให้กับแขก
“สวัสดีค่ะ มาหา...” ยังไม่ทันได้เอ่ยจนจบประโยคดี ไฮบาระก็ต้องชะงักเสียก่อน เมื่อเปิดประตูออกไปพบกับรอยยิ้มธรรมดา...แต่เธอคิดว่ามันช่างกวนอารมณ์เธอเหลือเกินของคนเบื้องหน้า ทำให้ไฮบาระไม่รอช้า..เลือกที่จะปิดประตูทันทีอย่างไม่มีลังเล แต่คนตัวสูงก็ไวกว่าโดยการคว้าประตูไว้ได้เสียก่อน
“ใครเขาต้อนรับแขกด้วยการปิดประตูใส่หน้ากัน?” เจ้าของรอยยิ้มกวนอารมณ์ที่ว่านั้นเอ่ยถามไฮบาระ...แน่นอนว่าต้องเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“มีธุระอะไร?” ไฮบาระถามกลับไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะต้องถอยหลังไปสามก้าวเมื่อร่างสูงเปิดประตูเดินเข้ามาในบ้านนี้อย่างถือวิสาสะ “ฉันยังไม่อนุญาตให้คุณเข้ามาในบ้านเลยนะ คุณสึบารุ”
“ขอโทษนะ แต่หิมะกำลังจะตก ฉันคิดว่าเธอคงไม่ใจร้ายมากพอที่จะปล่อยให้ฉันหนาวตายอยู่ข้างนอกหรอก ใช่ไหม?” สึบารุถามกลับด้วยรอยยิ้ม
“ถ้ามันหนาวขนาดนั้น ฉันคิดว่าคุณคงฉลาดมากพอที่จะวิ่งกลับเข้าบ้านตัวเอง...มากกว่ามายืนรอให้ฉันเปิดประตูให้แบบนี้นะ” ไฮบาระว่าพลางจ้องหน้าเขาเขม็ง
“อา...ถ้างั้นฉันคงฉลาดไม่พอสินะ” ร่างสูงตอบกลับด้วยสีหน้าระรื่น ไม่ได้รู้สึกรู้สากับสายตาไม่เป็นมิตรของเด็กหญิงเอาเสียเลย
และนั่นมันทำให้เธอไม่ชอบใจ ไฮบาระขมวดคิ้วมุ่น ขี้เกียจจะต่อปากต่อคำกับเขา จึงถามเข้าประเด็นทันที “ตกลงธุระของคุณคืออะไรกันแน่?”
“ฉันเอาของขวัญวันคริสต์มาสมาให้ดอกเตอร์น่ะ” พูดพร้อมชูตะกร้าที่อยู่ในมือขึ้นให้เธอดู เห็นดังนั้นไฮบาระจึงพยักหน้าเรียบๆ แล้วเดินนำเขาไปยังโซฟาต้อนรับแขก
“จะดื่มอะไรก่อนไหม?” เธอถามขณะที่เขานั่งลงบนโซฟาที่เธอนั่งเมื่อก่อนหน้านั้น
สายตาของชายหนุ่มมองไปยังแก้วกาแฟบนโต๊ะที่เธอวางเอาไว้ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงขบขัน “เธอเนี่ย ชอบดื่มกาแฟจังเลยนะ เป็นเด็กเป็นเล็กแท้ๆ”
หากแต่เด็กหญิงตัวเล็กกลับไม่สนใจคำพูดของเขา ถามย้ำอีกครั้งว่าต้องการเครื่องดื่มอะไรไหม? และสึบารุเองก็ส่ายหน้าเป็นการปฏิเสธไป
“ฉันแค่แวะเอาของขวัญมาให้แค่ครู่เดียวเท่านั้นแหละ ไม่รบกวนเธอมากหรอก” ว่า...ก่อนจะหยิบเอาของในตะกร้าออกมา
ไฮบาระพอใจกับคำตอบของเขา ..ก็ดี เพราะเธอก็ไม่อยากจะอยู่กับเขานานนักหรอกนะ.. แล้วมองเจ้าสิ่งของในมือเขาด้วยสายตาสงสัย มันถูกห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาลอย่างดี และจากรูปร่างของมันก็ทำให้เธอเดาได้ไม่ยาก “เหล้าเหรอ? หรือว่าเป็นน้ำผลไม้ล่ะ?”
“คิดว่าเป็นอะไรล่ะ?” เขาถามย้อนกลับ ซึ่งเด็กสาวก็ได้แต่ยักไหล่ทำเป็นไม่ใส่ใจ ก่อนจะรับเอาของขวัญที่ว่าจากมือของเขา “ไม่ลองเปิดดูหน่อยเหรอ?”
“ไม่เห็นจะน่าสนใจ”
“บางทีมันอาจจะเป็นสิ่งที่เธอชอบก็ได้นะ” สึบารุกล่าวด้วยรอยยิ้ม...ที่ไฮบาระไม่สามารถคาดเดาได้ว่ามันสื่อความหมายเช่นไร
สุดท้ายก็ยอมเปิดออกดูจนได้...และเมื่อฉีกกระดาษที่ห่อมันเอาไว้ออกพ้นแล้ว ไฮบาระก็ถึงกับต้องปล่อยเจ้าขวดที่อยู่ในมือลงทันที ทว่าก่อนที่มันจะหล่นกระทบกับพื้นจนแตกกระจายเสียก่อน...สึบารุก็คว้ามันเอาไว้ได้ทัน
“ทิ้งของมีค่าแบบนี้ ไม่ดีเลยนะ” เขาว่าด้วยท่าทางสบายๆ ต่างจากไฮบาระที่ตอนนี้ยืนตัวแข็งทื่อ ใบหน้าซีดเผือดไปหมด แล้วเธอก็รีบถอยห่างจากเขาทันที ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่พยายามไม่ให้มันสั่นเทา
“คุณ...เอามันมาให้ฉันทำไม?” เอ่ยถาม พลางมองไปยังขวดเหล้าที่อยู่ในมือของเขาด้วยความกังวล
“ฉันเอามาให้ดอกเตอร์ต่างหาก” สึบารุตอบกลับ พลางวางขวดเหล้าที่ติดป้ายชื่อยี่ห้อ Sherry ลงบนโต๊ะ แล้วหันมาถามเธอ “เธอมีปัญหาอะไรกับเหล้ายี่ห้อนี้อย่างนั้นเหรอ?”
“ไม่มีอะไร” ไฮบาระตอบกลับทันควัน “ถ้าคุณเสร็จธุระแล้วก็เชิญกลับไปได้แล้ว”
“ฉันยังไม่ได้พบดอกเตอร์เลยนะ” สึบารุว่า
“เขาออกไปข้างนอก ถ้าเขากลับมาฉันจะบอกให้ก็แล้วกันว่าคุณเอาเหล้ามามอบเป็นของขวัญให้เขา...แม้ว่าเขาจะไม่ดื่มเหล้าก็ตามที”
“อ้าว เขาไม่ดื่มหรอกเหรอ?” ร่างสูงเอ่ยถามไฮบาระ ซึ่งเด็กหญิงก็พยักหน้าตอบเป็นการยืนยัน “งั้นเหล้า Sherry ขวดนี้ก็เป็นหมันน่ะสิ รสชาติออกจะดีแท้ๆ”
“งั้นก็เชิญคุณเอากลับไปดื่มเองซะเถอะ” เธอว่า “หรือว่าดื่มไม่ได้...เพราะมันไม่ใช่วิสกี้อเมริกันยี่ห้อดังอย่างเช่น..Kentucky Bourbon”
สึบารุสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย...แค่เล็กน้อยเท่านั้น และเพียงพริบตาเดียว เขาก็ส่งรอยยิ้มอารมณ์ขันมาให้กับเด็กหญิงตัวน้อย “เธอนี่รู้ใจฉันดีจังเลยนะ”
“ฉันก็พูดเรื่อยเปื่อย” ไฮบาระว่า “เอาล่ะ คุณควรกลับไปได้แล้ว เพราะนี่มันก็ถึงเวลาที่ ‘เด็ก’ อย่างฉันควรจะต้องพักผ่อนแล้ว”
“แต่เธอเพิ่งจะดื่มกาแฟไปเองนะ คงจะนอนไม่หลับ” เขาตอบกลับมา
“ฉันหลับแน่นอน” เธอว่าด้วยน้ำเสียงที่เริ่มแข็งกร้าวขึ้นมาเล็กน้อย เพื่อแสดงให้เขาเห็นว่าตอนนี้เธอกำลังไม่พอใจที่ถูกเขารบกวน
...แน่นอนว่านอกจากความไม่พอใจแล้ว มันมีความกลัวและความกังวลปนอยู่ด้วย
เช่นกันกับร่างสูงที่มองออกว่าเธอกำลังขับไล่ไสส่งเขา...ด้วยเหตุผลที่เขาคาดว่าน่าจะมาจากความกังวลใจและความหวาดกลัวในตัวเขา...
แต่...ช่างมันสิ
“ออกไปเดินเล่นข้างนอกด้วยกันไหม?” เขาเอ่ยถามเธอด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
และมันทำให้เธออดหมั่นไส้ไม่ได้ ทั้งๆ ที่เธอแสดงออกต่อเขาด้วยท่าทีรำคาญแล้วแท้ๆ ยังจะมาตีสีหน้าระรื่นชวนออกไปเดินเล่นข้างนอกอีก “ไม่ ฉันไม่อยากออกไปไหนทั้งนั้น”
“ไม่อยากไปไหนเลยอย่างนั้นเหรอ?” เขาถามย้ำกลับมาอีกครั้ง
“ใช่ ไม่อยากไปไหนทั้งนั้น” ไฮบาระพูด แต่เมื่อสายตาเหลือบไปยังจอโทรทัศน์ น้ำเสียงอันมั่นคงของเธอก็อดที่จะสั่นเล็กน้อยไม่ได้
นั่นทำให้สึบารุแย้มยิ้มกว้างกว่าเก่า “แทนที่จะเฝ้าดูงานอยู่หน้าจอโทรทัศน์แบบนี้ สู้ออกไปชมทัศนียภาพความสวยงามของงานวันคริสต์มาสข้างนอกกับตาตัวเองเลยไม่ดีกว่าเหรอ?”
“หึ” ไฮบาระพ่นหายใจน้อยๆ อย่างไม่พอใจที่เขาสามารถอ่านออกว่าเธออยากจะออกไปเดินเที่ยวชมงานวันคริสต์มาส
“ตกลงว่าไง..?”
“ไปก็ได้”
@@@@@@@@@@@@@@@
ร่างสูงของสึบารุพาไฮบาระออกมาเดินเล่นตามถนนสายหนึ่งซึ่งเป็นการย่านการค้า ร้านรวงทั้งสองฟากฝั่งถนนต่างก็ประดับตกแต่งร้านด้วยไฟหลากสีสันเพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาชมสินค้าภายในร้าน และผู้คนมากหน้าหลายตาต่างก็เดินเข้าร้านนั้นเดินออกร้านนี้กันไปมา ยังไม่นับต้นไม้ริมทางที่ถูกประดับด้วยไฟจนเต็มต้นไปหมด ภาพเบื้องหน้านี้สร้างความพอใจให้กับไฮบาระไม่น้อย ถ้าหากว่าคนที่เธอมาด้วยไม่ใช่สึบารุแล้วล่ะก็...บางทีเธออาจจะเดินเข้าไปถ่ายรูปบรรยากาศความงดงามนี้เก็บเอาไว้แล้วก็ได้
“เธอไม่ลองใส่ชุดซานต้าคลอสดูบ้างเหรอ?” สึบารุเอ่ยถามขึ้นมา เมื่อเขาพาเธอเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าร้านขายเสื้อผ้าเด็กร้านหนึ่ง เพราะด้านหน้าของร้านเป็นกระจกใส ทำให้มองเห็นเสื้อผ้าภายในร้านได้ และตัวที่สึบารุรู้สึกสะดุดตาก็เห็นจะเป็นชุดกระโปรงสีแดงสดที่มีผ้าคลุมสีเดียวกันซึ่งถูกขลิบปกคอและชายกระโปรงด้วยขนสัตว์สีขาวสะอาดตา พร้อมทั้งหมวกและถุงมือที่ดูเข้าชุดกัน
“ฉันโตมากพอที่จะไม่แต่งตัวแบบนั้นแล้ว” ไฮบาระตอบกลับ หากแต่สายตาของเธอก็จ้องมองชุดนั้นด้วยความรู้สึกสนใจไม่น้อย
“ไม่เสียหายอะไรหรอกนะ ถ้าเธอจะแต่งตัวแบบนั้นน่ะ” คนตัวสูงกว่าก้มหน้ามองเธอพร้อมรอยยิ้ม
สุดท้าย ไฮบาระก็ต้องแวะเข้าไปใช้บริการร้านนั้นจนได้...
เธอเดินออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยชุดสีแดงสดที่ว่านั้น ด้วยใบหน้าราบเรียบ หรือบางทีอาจจะต้องบอกว่า..ใบหน้าที่แสดงออกมาว่าราบเรียบเพราะพยายามที่จะปิดกั้นความพึงใจเล็กๆ เอาไว้
“มองอะไรไม่ทราบ?” ไฮบาระเอ่ยถามสึบารุ เมื่อรู้สึกว่าเขาจ้องเธอมากเกินไปแล้ว
“ฉันแค่คิดว่าเธอเหมาะกับสีแดงมากๆ เลยก็เท่านั้นเอง” ชายหนุ่มตอบกลับไป โดยแอบหวังไว้เล็กน้อยว่าอาจจะได้เห็นเธอแสดงท่าทีขัดเขินอย่างที่เด็กทั่วไปจะแสดงออกมาเมื่อถูกเอ่ยชม
แต่นั่นคงไม่ใช่กรณีของไฮบาระ
“งั้นฉันจะไปเปลี่ยนชุด” เด็กหญิงว่า ก่อนจะหมุนตัวทำท่าจะเดินกลับเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกครั้ง หากแต่สึบารุก็คว้าแขนเธอไว้ได้ทัน แล้วพาเธอเดินออกมาจากร้านอย่างรวดเร็ว
“คำชมของฉันมันไม่น่าดีใจขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ก็คงใช่”
คำตอบที่มาพร้อมกับใบหน้าที่เชิดหนีไปนั้นพาให้สึบารุต้องหัวเราะออกมาน้อยๆ ก่อนจะเปลี่ยนข้อหัวการสนทนา “ฉันว่าเราเดินไปที่ต้นคริสต์มาสต้นนั้นกันเถอะนะ” ว่าพร้อมกับชี้มือไปยังต้นคริสต์มาสต้นใหญ่ที่สามารถมองเห็นจากระยะไกลพอสมควรได้
“อืม” ไฮบาระตอบรับและเดินตามหลังของสึบารุไป
ทั้งคู่หยุดยืนที่หน้าต้นไม้ใหญ่ที่ถูกประดับด้วยไฟหลากสีสัน ใกล้ๆ กันนั้นมีร้านขายแก้วใส่เทียนที่จะใช้จุดเพื่ออธิษฐานขอพรกับพระเจ้าอยู่ สึบารุเดินไปซื้อมันมาหนึ่งอัน ก่อนจะยื่นให้กับไฮบาระ
เธอมองเขาด้วยความไม่เข้าใจว่ายื่นมันมาให้เธอทำไม “ฉันไม่เอาหรอก”
“ทำไมล่ะ? เธอไม่อยากอธิษฐานขอพรอะไรสักหน่อยเหรอ?” เขาถามกลับ และต้องแปลกใจเมื่อเห็นใบหน้าของเด็กหญิงชุดสีแดงสดหม่นลงอย่างเห็นได้ชัด แม้เจ้าตัวจะพยายามปั้นหน้าว่าไม่สนใจจะอธิษฐานก็เถอะ
“พระเจ้าคงไม่อยากประทานสิ่งใดให้กับฉันหรอก”
เกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะหนึ่ง ก่อนที่สึบารุจะเป็นฝ่ายทำลายความเงียบระหว่างพวกเขาลง “จะรู้ได้ยังไง ในเมื่อเธอยังไม่ได้ลองอธิษฐานอะไรเลย”
เจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลอมแดงมองหน้าเขาครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ “ก็ได้”
ชายหนุ่มยิ้มอ่อนโยนให้เธอ แล้วส่งแก้วใส่เทียนที่ถูกจุดไฟเอาไว้แล้วให้กับไฮบาระ เธอรับมาไว้ในมือตน แล้วก้มหน้าลงอธิษฐานสิ่งที่เธออยากจะขอภายในใจของตน..
..ขอให้หนีพ้นจากสิ่งที่กำลังตามล่าตัวเองอยู่ แต่ถ้าหากไม่สามารถหนีพวกมันพ้นได้ ก็ขอให้เรื่องราวจบลงที่ตัวของฉันเอง อย่าให้คนรอบข้างหรือใครก็ตามต้องเดือดร้อนไปกับเรื่องนี้ด้วยเลยนะคะ..
เมื่อจบคำอธิษฐาน ไฮบาระก็เงยหน้าขึ้นมา...สบเข้ากับนัยน์ตาคมใต้กรอบแว่นของร่างสูงเข้าพอดี
“ไม่ต้องเป็นกังวลไปหรอก เคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าฉันจะปกป้องเธอเองน่ะ”
“หึ” ร่างเล็กเหยียดยิ้ม ก่อนจะถามกลับไป “พูดอย่างกับรู้เลยนะ ว่าฉันอธิษฐานอะไรไป”
ริมฝีปากเรียวยกยิ้มขึ้นที่มุมปากราวกับตอบรับรอยยิ้มเหยียดหยันนั้นของเธอ หรือบางที...อาจจะเป็นรอยยิ้มแห่งความมั่นใจว่าเขา...
“เมื่อตอนคดีมิสเทอรี่เทรน ฉันจำได้ว่าพูดอะไรบางอย่างกับเธอไปนะ และฉันก็เชื่อด้วยว่าเธอยังไม่ลืมคำพูดของฉันแน่นอน”
...ฉันอ่านการเคลื่อนไหวของเธอได้หมดเลย...
...รู้จักเธอดี
“หึ รู้ใจฉันดีจริงๆ เลยนะ” เธอว่ากลับด้วยน้ำเสียงประชดประชัน ซึ่งเขาก็ทำเพียงยิ้มรับเท่านั้น “แล้วคุณไม่อธิษฐานอะไรหน่อยเหรอ?” ถามพร้อมกับยื่นเทียนให้กับเขา แต่สึบารุกลับโบกมือปฏิเสธ
“ไม่ล่ะ สิ่งที่ฉันอยากอธิษฐานคงไม่เป็นจริงหรอก”
“รู้ได้ยังไง ในเมื่อคุณยังไม่ได้อธิษฐานอะไรเลย” ไฮบาระตั้งใจยกเอาคำพูดของเขามากล่าวกับตัวเขาเอง
“เพราะฉันคิดว่าถึงจะขอ...มันก็คงไม่ได้ผลอยู่ดีนั่นล่ะ” เขาว่า
ร่างเล็กในชุดสีแดงขมวดคิ้วเล็กน้อย แอบไม่พอใจที่ผู้ชายคนนี้ดูจะกวนอารมณ์เธอมากเกินเหตุไปแล้ว ในตอนที่เธอไม่อธิษฐาน ก็หาคำพูดมาบังคับทางอ้อมให้เธอยอมอธิษฐานจนได้ แต่เมื่อถึงคราตนเอง เขากลับบอกว่าคำอธิฐานของเขามันคงเป็นจริงไปไม่ได้ “แล้วคุณจะขออะไรล่ะ?”
“อืม~ ขอให้เธอยอมลดอคติและยอมเชื่อใจฉันบ้าง...ล่ะมั้ง”
คำตอบที่ทำเอาร่างเล็กถึงกับต้องเบิกตาขึ้นเล็กน้อยด้วยความตะลึงอย่างไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เขาบอกมา ดวงตากลมโตจ้องสบกับนัยน์ตาหลังกรอบแว่นคู่นั้น “นั่นสินะ ของแบบนี้ไม่ต้องอธิษฐานขอกับพระเจ้าหรอก”
“ว้า~” คนตัวสูงกว่าแสร้งทำหน้าเศร้ากับคำพูดของเด็กหญิง ก่อนจะต้องมองเธอกลับด้วยแววตาไม่เข้าใจเมื่อได้ฟังคำพูดของเธอต่อ
“ของแบบนี้...ขอกับตัวฉันเองตรงๆ เลยจะไม่ดีกว่าเหรอ?”
เขาหัวเราะน้อยๆ “แล้วเธอจะให้ฉันได้เหรอ?”
“นั่นสินะ...” ไฮบาระว่า ก่อนจะหันไปวางแก้วเทียนไว้ยังที่ที่จัดให้วาง แล้วหันหลังเดินหนีออกไปอย่างที่ไม่คิดจะรอสึบารุเลยแม้แต่น้อย
“จะกลับแล้วงั้นเหรอ?” ร่างสูงเอ่ยถามไล่หลัง
เธอหันมาส่ายหน้าแทนคำตอบ ก่อนจะเอ่ยประโยคที่สึบารุคิดว่ามันคงจะไม่มีทางออกมาจากปากเธออย่างแน่นอนออกมา “ถ้าคุณยังว่างอยู่ จะชวนฉันไปทานเค้กก็ได้นะ”
“จริงๆ แล้วเธอต้องเป็นฝ่ายชวนฉันไม่ใช่เหรอ?” สึบารุถามกลับด้วยน้ำเสียงขบขันด้วยต้องการเอ่ยแซวคนตรงหน้า หากแต่ไฮบาระกลับทำหน้าบึ้งตึงใส่เขา
“ถ้าไม่ชวน...ฉันก็จะกลับ” ว่าแล้วก็เดินหนีต่อไปทันที ทำให้สึบารุได้ส่ายหน้าไปมากับความปากไม่ตรงกับใจของอีกคน แล้วรีบเอ่ยชวนก่อนที่เธอจะเดินหนีไปไกล
“ให้เกียรติไปทานเค้กกับผมได้ไหมครับ คุณหนู ?”
เด็กหญิงในชุดสีแดงสดหันกลับมามองหน้าเขา ก่อนจะเผยรอยยิ้มบางๆ ออกมา “ก็ได้”
แล้วทั้งคู่ก็เดินไปด้วยกันเพื่อมองหาร้านเค้กที่คิดว่าอร่อยที่สุด..
บรรยากาศ แสงสี และเสียงเพลงที่เปิดคลองานเทศกาลเบาๆ พาให้ภาพตรงหน้างดงามไปหมด ไฮบาระไม่รู้ว่าตัวเองไม่ได้ให้ความสนใจกับงานเทศกาลแบบนี้มานานแค่ไหนกันแล้ว เธอยิ้มออกมาเล็กน้อย บางที...อาจจะตั้งแต่ตอนที่เธอหนีออกมาจากองค์กรก็เป็นได้..
“อยากกินเค้กร้านไหนล่ะ?” คนข้างๆ เอ่ยถามขึ้นมา
“แล้วแต่คนชวนสิ” ตอบกลับไปอย่างไม่ค่อยใส่ใจนัก
“แปลกนะ” สึบารุพูดขัดขึ้นมาอีกครั้ง
ร่างเล็กหันไปมองหน้าเขาอย่างต้องการคำตอบว่าเพราะสิ่งใดจึงทำให้เขาเอ่ยออกมาเช่นนั้น หากแต่คนตัวสูงกว่ากลับไม่มีทีท่าว่าจะเอ่ยอะไรต่อ “แปลกยังไง?”
“ก็เธอยอมให้เกียรติไปกินเค้กกับฉันแบบนี้ มันไม่คิดว่ามันแปลกรึไง” เขาหันมาตอบพร้อมรอยยิ้ม “ปกติเธอออกจะทำท่าทางรังเกียจฉันออกไม่ใช่เหรอ??”
“เปล่าซะหน่อย” เธอว่า “แล้วก็ไม่เห็นจะแปลกอะไรตรงไหน”
“แปลกมากเลยต่างหาก” สึบารุแย้ง
“งั้นคงเป็นเพราะ...” เด็กหญิงเว้นจังหวะคำพูดของตนไป เลื่อนสายตาไปมองใบหน้าหล่อคมของร่างสูง และมันก็แทบทำให้เธอยิ้มขันออกมา เพราะถ้าเธออ่านไม่ผิดล่ะก็...สีหน้าของเขาบ่งบอกว่าต้องการรู้คำตอบของเธอ..มาก “...ฉันแต่งตัวเป็นซานต้าคลอสล่ะมั้ง”
“จะมอบของขวัญให้ฉันสินะ” สึบารุพูดอย่างรู้ทันคำหมายของคำตอบนั้น “ของขวัญที่เป็นคำว่า ‘ความเชื่อใจ’ น่ะ?”
“พูดบ้าๆ” ไฮบาระตีสีหน้าเรียบนิ่งตอบกลับไป “ฉันก็แค่ยอม ‘ลดอคติ’ ก็เท่านั้นเอง”
สึบารุหัวเราะให้กับคำตอบของเธออีกครั้ง “ก็ยังดี” เขาว่า ก่อนจะพาเธอเดินต่อ
ไฮบาระไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงกล้าออกมาเดินชมงานกับคนข้างๆ นี่ได้ และที่ไม่น่าเป็นไปได้กว่านั้นก็คือการเอ่ยปากบอกให้เขา ‘ชวน’ เธอไปทานเค้กด้วยกัน ...หรือเพราะจากหลายๆ เหตุการณ์ที่ได้ผ่านพ้นร่วมกันมา มันทำให้เธอพอที่จะ...เชื่อใจ...เขาได้บ้าง แต่คงไม่มีทางหรอก เธอคงแค่ ‘ลดอคติ’ จริงๆ นั่นแหละ
..นั่นสินะ อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้..
โดยที่ตัวเธอเองไม่คาดคิดว่าตัวเองจะทำ....มือเล็กๆ ของเธอก็เอื้อมไปคว้ามือของอีกคนเอาไว้เสียแล้ว..
เจ้าของใบหน้าหล่อคมหันมามองเธอทันทีด้วยความแปลกใจ และคำตอบที่ได้รับกลับไปจากเธอก็ทำให้เขายิ้มออกมา “คนมันเยอะ ฉันเกรงว่าเราจะพลัดหลงกันได้”
“นั่นสินะ” ร่างสูงตอบรับ ก่อนจะกระชับมือเล็กที่อยู่ที่มือของเขาเอาไว้แน่น
บัดนี้ ตัวแทนแห่งความบริสุทธิ์ในค่ำคืนศักดิ์สิทธิ์ได้โปรยปรายลงมาแล้ว สีขาวที่เด่นชัดในความมืดของค่ำคืน ที่แม้แต่แสงไฟจากร้านรวงใดๆ ก็ไม่อาจกลบความงามอันพิสุทธิ์ของมันได้
..หิมะตกแล้ว..
แต่ไฮบาระกลับค้นพบว่าเธอไม่รู้สึกหนาวเลยแม้แต่น้อย อาจเป็นเพราะชุดที่ใส่อยู่นั้นมันหนามากพอ...หรืออาจจะเป็นเพราะความอบอุ่นจากมือของอีกคนที่แผ่ซ่านผ่านมายังตัวเธอกันแน่นะ..?
..ช่างมันเถอะ ยังไงมันก็เป็นเพราะชุดอยู่แล้วนี่นะ..
“นี่..” เธอเอ่ยเรียกเขาเสียงเบา ทำให้เจ้าของมืออันอบอุ่นหันกลับมามองเธออีกครั้ง และนัยน์ตาคมคู่นั้นของเขามันคงจะสามารถอ่านเธอได้ทะลุปรุโปร่งอย่างที่เขาโม้เอาไว้จริงๆ เพราะจู่ๆ เขาก็เอ่ยคำพูดที่เธอคิดจะเอ่ยขึ้นมา...พร้อมๆ กัน
“MERRY CHRISTMAS”
ผลงานอื่นๆ ของ @tlatic ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ @tlatic
ความคิดเห็น