[FIC CONAN] MERRY CHRISTMAS - [FIC CONAN] MERRY CHRISTMAS นิยาย [FIC CONAN] MERRY CHRISTMAS : Dek-D.com - Writer

    [FIC CONAN] MERRY CHRISTMAS

    แล้วคุณไม่อธิษฐานอะไรหน่อยเหรอ? เด็กหญิงเอ่ยถาม อืม~ ขอให้เธอยอมลดอคติและยอมเชื่อใจฉันบ้าง...ล่ะมั้ง และคำตอบของเขาก็ทำเธอตะลึง ของแบบนี้...ขอกับตัวฉันเองตรงๆ เลยจะไม่ดีกว่าเหรอ?

    ผู้เข้าชมรวม

    1,892

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    1.89K

    ความคิดเห็น


    9

    คนติดตาม


    34
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  27 ธ.ค. 56 / 17:37 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น


     
    FIC CONAN

    SUBARU X AI




    เนื่องจากตอนนี้กำลังพีคคู่นี้อยู่
    จริงๆ ก็พีคมานานแล้ว และก็หาโอกาสแต่งฟิคคู่นี้
    แต่เนื่องจากหาพล็อตเรื่องงามๆ ให้คู่นี้ไม่ได้ ฟิคก็เลยเป็นหมันไป 55.

    จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ ไรเตอร์ได้ค้นพบภาพของหนูไอเข้าให้!
    มันคือภาพของเธอในชุดซานต้า
    "โอ้ ช่างน่ารักเหลือเกิน"
    ไรเตอร์รำพึงเช่นนี้เสมอ  จนในที่สุดก็ตัดสินใจแต่งตอนสั้นตอนนี้มา

    ส่วนรูปที่ว่าอยู่ด้านล่างค่ะ
    ต้องขออภัยที่จำเครดิตภาพไม่ได้  แต่คาดว่าน่าจะมาจาก ZEROCHAN นะคะ


    กล่าวพอเป็นพิธีแล้ว

    ยังไงก็ขอฝากฟิคสั้นเรื่องนี้ด้วยนะคะ

    มีข้อพิดพลาดอันใดก็ช่วยแนะนำ ตักเตือน ติชม ได้ตามแต่ใจท่านเลยค่ะ :D










    Secret of my heart - Kuraki Mai

    (ทำไมเพลงมันเปลี่ยนเป็นเวอร์ 2 ไม่ได้อ่ะ = =)





    ขอขอบคุณเม้าส์สวยๆ จาก

    Tiny Star Pochu-Code-mouse
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      Title : Merry Christmas

      Pairing : Subaru x Ai

      Rating : G 














      ************************************
      MERRY CHRISTMAS
      ************************************
       




      “คริสต์มาสนี้จะมอบอะไรให้กับคนรักของคุณเหรอครับ?”

       

      “ก็คงจะเป็นของทั่วๆ ไปอย่างเค้กนั่นแหละค่ะ”

       

      เสียงของพิธีกรในรายการโทรทัศน์ที่กำลังเอ่ยถามคำถามทั่วๆ ไปเกี่ยวกับงานเทศกาลคริสต์มาสกับเด็กสาวนักเรียนไฮสคูล สามารถเรียกความสนใจของเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลอมแดงที่กำลังนั่งอ่านนิตยสารแฟชั่นอยู่ให้ละสายตาจากหนังสือขึ้นมาจ้องมองจอโทรทัศน์  หากแต่สิ่งที่เธอสนใจกลับไม่ใช่คำถามหรือคำตอบ  แต่เป็นบรรยากาศของงานเทศกาลวันคริสต์มาสเบื้องหลังของพวกนั้นต่างหาก

       

      ไฮบาระอดที่จะถอนหายใจไม่ได้  นี่ถ้าหากว่าดอกเตอร์อากาสะไม่ติดงานเลี้ยงสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนนักประดิษฐ์แล้วล่ะก็...ป่านนี้เธอคงจะได้ไปเดินเที่ยวชมงานเทศกาลภายในเมืองแล้ว  คงไม่ต้องมานั่งอ่านหนังสือแฟชั่นหรือติดตามสถานการณ์ของงานผ่านทางหน้าจอโทรทัศน์เช่นนี้

       

      .

      .

       

      ความจริงแล้วไฮบาระก็อยากจะไปงานเลี้ยงสังสรรค์กับดอกเตอร์ด้วยเช่นกัน แต่น่าเสียดายที่งานเลี้ยงนั้นมีแต่คนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับดอกเตอร์  เขาจึงเกรงว่าจะเป็นการพาเธอไปทรมานเสียเปล่าๆ  จึงเสนอทางเลือกให้เธอสองทาง  หนึ่ง...ไปบ้านของอายูมิจัง และสอง...ไปอยู่ที่สำนักงานนักสืบโมริ 

       

      “ยังมีอีกข้อนะคะดอกเตอร์” เธอเอ่ยกับเขาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ และดอกเตอร์อากาสะเองก็จ้องกลับมาด้วยไม่เข้าใจว่าทางเลือกอีกข้อที่ว่าคืออะไร  เด็กหญิงจึงเอ่ยตอบ “อยู่เฝ้าบ้านค่ะ”

       

      ความประหลาดใจเกิดขึ้นในแววตาของดอกเตอร์ทันทีที่ได้ยินคำตอบของเธอ  และไฮบาระก็พอจะรู้ว่าความประหลาดใจที่ว่านั้นมันมีต้นเหตุมาจากสิ่งใด

       

      “ไอคุงกลัวการอยู่บ้านคนเดียวไม่ใช่เหรอ?”

       

      ใช่...  จะไม่ให้กลัวได้อย่างไร..?  ในเมื่อข้างบ้านของเธอนั้นมีหนุ่มนักศึกษาปริญญาโทผู้ที่ไม่รู้ว่าประสงค์ดีหรือประสงค์ร้ายกันแน่อาศัยอยู่  และที่สำคัญคือบ่อยครั้งที่เธอรู้สึกเหมือนถูกสายตาที่อยู่ในบ้านหลังนั้นจับจ้องมองมา  ถ้าเป็นไปได้เธอก็ไม่อยากจะอยู่บ้านคนเดียวหรอก  แต่ทว่า..

       

      เธอไม่อยากรบกวนงานฉลองวันคริสต์มาสของครอบครัวโยชิดะ  และแน่นอนว่าเธอไม่อยากไปรบกวนเวลาแห่งความสุขของพ่อหนุ่มนักสืบมัธยมปลายตะวันออกและแม่สาวที่เขากำลังปิ๊งปั๊งกันอยู่หรอก

       

      ดังนั้นแล้ว...การเลือกอยู่บ้าน  อาจจะเป็นทางเลือกที่เธอคิดว่าดีที่สุดแล้ว

       

      และทางดอกเตอร์เองก็เคารพในการตัดสินใจของเธอ  แม้ว่าจะกังวลอยู่บ้างก็ตามที “งั้นฉันจะรีบไปรีบกลับนะ” ดอกเตอร์กล่าวลาแล้วเดินไปยังโรงจอดรถ

       

      ชั่วครู่เดียวไฮบาระก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์แล่นออกจากบ้านไป  เด็กสาวถอนหายใจน้อยๆ  ก่อนจะตริตรองว่าควรจะพาตัวเองไปขังไว้ที่ห้องใต้ดิน  หรือจะนั่งอยู่ในห้องรับแขกดี  คิดไปคิดมา...สุดท้ายเธอก็เลือกพาตัวเองมานั่งลงบนโซฟาในห้องรับแขก  แล้วเปิดโทรทัศน์ดูรายการที่กล่าวถึงงานเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส

       

      .

      .

       

      “น่าเบื่อจริงๆ” ร่างเล็กพึมพำ  การนั่งมองภาพบรรยากาศความสวยงามของงานคริสต์มาสทำให้เธออยากจะออกไปเดินเที่ยวชมงานเสียเหลือเกิน  หากแต่การไปคนเดียวนั้น...มันก็ออกจะเกินความสามารถของคนขี้ขลาดอย่างเธอไปเสียหน่อย  เด็กหญิงจึงได้แต่ส่ายหน้าไปมา  แล้วลุกเดินไปยังห้องครัวเพื่อหากาแฟร้อนๆ สักแก้วมาดับอารมณ์ที่อยากจะออกไปข้างนอกของตัวเอง

       

      ออด

       

      เสียงออดที่หน้าประตูดังขึ้น  ไฮบาระเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมแก้วกาแฟในมือ  ร่างเล็กขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ  เสียงออดไม่ได้ดังที่ประตูรั้ว...แต่ดังที่ประตูหน้าบ้านนี้เอง  แสดงว่าคงจะต้องเป็นคนที่รู้จักและสนิทชิดเชื้อกับดอกเตอร์มากพอที่จะกล้า(ไร้มารยาท)เดินเข้ามาถึงหน้าประตูได้...  ใครกันนะ ?  เธอคิด  ก่อนจะเอาแก้วกาแฟไปวางไว้บนโต๊ะ  แล้วเดินไปเปิดประตูให้กับแขก

       

      “สวัสดีค่ะ  มาหา...” ยังไม่ทันได้เอ่ยจนจบประโยคดี  ไฮบาระก็ต้องชะงักเสียก่อน  เมื่อเปิดประตูออกไปพบกับรอยยิ้มธรรมดา...แต่เธอคิดว่ามันช่างกวนอารมณ์เธอเหลือเกินของคนเบื้องหน้า  ทำให้ไฮบาระไม่รอช้า..เลือกที่จะปิดประตูทันทีอย่างไม่มีลังเล  แต่คนตัวสูงก็ไวกว่าโดยการคว้าประตูไว้ได้เสียก่อน

       

      “ใครเขาต้อนรับแขกด้วยการปิดประตูใส่หน้ากัน?” เจ้าของรอยยิ้มกวนอารมณ์ที่ว่านั้นเอ่ยถามไฮบาระ...แน่นอนว่าต้องเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

       

      “มีธุระอะไร?” ไฮบาระถามกลับไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย  ก่อนจะต้องถอยหลังไปสามก้าวเมื่อร่างสูงเปิดประตูเดินเข้ามาในบ้านนี้อย่างถือวิสาสะ “ฉันยังไม่อนุญาตให้คุณเข้ามาในบ้านเลยนะ คุณสึบารุ”

       

      “ขอโทษนะ  แต่หิมะกำลังจะตก  ฉันคิดว่าเธอคงไม่ใจร้ายมากพอที่จะปล่อยให้ฉันหนาวตายอยู่ข้างนอกหรอก ใช่ไหม?” สึบารุถามกลับด้วยรอยยิ้ม

       

      “ถ้ามันหนาวขนาดนั้น  ฉันคิดว่าคุณคงฉลาดมากพอที่จะวิ่งกลับเข้าบ้านตัวเอง...มากกว่ามายืนรอให้ฉันเปิดประตูให้แบบนี้นะ” ไฮบาระว่าพลางจ้องหน้าเขาเขม็ง

       

      “อา...ถ้างั้นฉันคงฉลาดไม่พอสินะ” ร่างสูงตอบกลับด้วยสีหน้าระรื่น  ไม่ได้รู้สึกรู้สากับสายตาไม่เป็นมิตรของเด็กหญิงเอาเสียเลย

       

      และนั่นมันทำให้เธอไม่ชอบใจ  ไฮบาระขมวดคิ้วมุ่น  ขี้เกียจจะต่อปากต่อคำกับเขา  จึงถามเข้าประเด็นทันที “ตกลงธุระของคุณคืออะไรกันแน่?”

       

      “ฉันเอาของขวัญวันคริสต์มาสมาให้ดอกเตอร์น่ะ” พูดพร้อมชูตะกร้าที่อยู่ในมือขึ้นให้เธอดู  เห็นดังนั้นไฮบาระจึงพยักหน้าเรียบๆ  แล้วเดินนำเขาไปยังโซฟาต้อนรับแขก

       

      “จะดื่มอะไรก่อนไหม?” เธอถามขณะที่เขานั่งลงบนโซฟาที่เธอนั่งเมื่อก่อนหน้านั้น

       

      สายตาของชายหนุ่มมองไปยังแก้วกาแฟบนโต๊ะที่เธอวางเอาไว้  ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงขบขัน “เธอเนี่ย  ชอบดื่มกาแฟจังเลยนะ  เป็นเด็กเป็นเล็กแท้ๆ”

       

      หากแต่เด็กหญิงตัวเล็กกลับไม่สนใจคำพูดของเขา  ถามย้ำอีกครั้งว่าต้องการเครื่องดื่มอะไรไหม?  และสึบารุเองก็ส่ายหน้าเป็นการปฏิเสธไป

       

      “ฉันแค่แวะเอาของขวัญมาให้แค่ครู่เดียวเท่านั้นแหละ  ไม่รบกวนเธอมากหรอก” ว่า...ก่อนจะหยิบเอาของในตะกร้าออกมา 

       

      ไฮบาระพอใจกับคำตอบของเขา ..ก็ดี เพราะเธอก็ไม่อยากจะอยู่กับเขานานนักหรอกนะ..  แล้วมองเจ้าสิ่งของในมือเขาด้วยสายตาสงสัย  มันถูกห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาลอย่างดี  และจากรูปร่างของมันก็ทำให้เธอเดาได้ไม่ยาก “เหล้าเหรอ?  หรือว่าเป็นน้ำผลไม้ล่ะ?”

       

      “คิดว่าเป็นอะไรล่ะ?” เขาถามย้อนกลับ  ซึ่งเด็กสาวก็ได้แต่ยักไหล่ทำเป็นไม่ใส่ใจ  ก่อนจะรับเอาของขวัญที่ว่าจากมือของเขา “ไม่ลองเปิดดูหน่อยเหรอ?”

       

      “ไม่เห็นจะน่าสนใจ”

       

      “บางทีมันอาจจะเป็นสิ่งที่เธอชอบก็ได้นะ” สึบารุกล่าวด้วยรอยยิ้ม...ที่ไฮบาระไม่สามารถคาดเดาได้ว่ามันสื่อความหมายเช่นไร 

       

      สุดท้ายก็ยอมเปิดออกดูจนได้...และเมื่อฉีกกระดาษที่ห่อมันเอาไว้ออกพ้นแล้ว  ไฮบาระก็ถึงกับต้องปล่อยเจ้าขวดที่อยู่ในมือลงทันที  ทว่าก่อนที่มันจะหล่นกระทบกับพื้นจนแตกกระจายเสียก่อน...สึบารุก็คว้ามันเอาไว้ได้ทัน

       

      “ทิ้งของมีค่าแบบนี้  ไม่ดีเลยนะ” เขาว่าด้วยท่าทางสบายๆ  ต่างจากไฮบาระที่ตอนนี้ยืนตัวแข็งทื่อ  ใบหน้าซีดเผือดไปหมด  แล้วเธอก็รีบถอยห่างจากเขาทันที  ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่พยายามไม่ให้มันสั่นเทา

       

      “คุณ...เอามันมาให้ฉันทำไม?” เอ่ยถาม  พลางมองไปยังขวดเหล้าที่อยู่ในมือของเขาด้วยความกังวล

       

      “ฉันเอามาให้ดอกเตอร์ต่างหาก” สึบารุตอบกลับ  พลางวางขวดเหล้าที่ติดป้ายชื่อยี่ห้อ Sherry ลงบนโต๊ะ แล้วหันมาถามเธอ “เธอมีปัญหาอะไรกับเหล้ายี่ห้อนี้อย่างนั้นเหรอ?”

       

      “ไม่มีอะไร” ไฮบาระตอบกลับทันควัน “ถ้าคุณเสร็จธุระแล้วก็เชิญกลับไปได้แล้ว” 

       

      “ฉันยังไม่ได้พบดอกเตอร์เลยนะ” สึบารุว่า

       

      “เขาออกไปข้างนอก  ถ้าเขากลับมาฉันจะบอกให้ก็แล้วกันว่าคุณเอาเหล้ามามอบเป็นของขวัญให้เขา...แม้ว่าเขาจะไม่ดื่มเหล้าก็ตามที”

       

      “อ้าว  เขาไม่ดื่มหรอกเหรอ?” ร่างสูงเอ่ยถามไฮบาระ  ซึ่งเด็กหญิงก็พยักหน้าตอบเป็นการยืนยัน “งั้นเหล้า Sherry ขวดนี้ก็เป็นหมันน่ะสิ รสชาติออกจะดีแท้ๆ”

       

      “งั้นก็เชิญคุณเอากลับไปดื่มเองซะเถอะ” เธอว่า “หรือว่าดื่มไม่ได้...เพราะมันไม่ใช่วิสกี้อเมริกันยี่ห้อดังอย่างเช่น..Kentucky Bourbon

       

      สึบารุสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย...แค่เล็กน้อยเท่านั้น และเพียงพริบตาเดียว  เขาก็ส่งรอยยิ้มอารมณ์ขันมาให้กับเด็กหญิงตัวน้อย “เธอนี่รู้ใจฉันดีจังเลยนะ”

       

      “ฉันก็พูดเรื่อยเปื่อย” ไฮบาระว่า “เอาล่ะ  คุณควรกลับไปได้แล้ว  เพราะนี่มันก็ถึงเวลาที่ เด็กอย่างฉันควรจะต้องพักผ่อนแล้ว”

       

      “แต่เธอเพิ่งจะดื่มกาแฟไปเองนะ  คงจะนอนไม่หลับ” เขาตอบกลับมา

       

      “ฉันหลับแน่นอน” เธอว่าด้วยน้ำเสียงที่เริ่มแข็งกร้าวขึ้นมาเล็กน้อย  เพื่อแสดงให้เขาเห็นว่าตอนนี้เธอกำลังไม่พอใจที่ถูกเขารบกวน

       

      ...แน่นอนว่านอกจากความไม่พอใจแล้ว  มันมีความกลัวและความกังวลปนอยู่ด้วย

       

      เช่นกันกับร่างสูงที่มองออกว่าเธอกำลังขับไล่ไสส่งเขา...ด้วยเหตุผลที่เขาคาดว่าน่าจะมาจากความกังวลใจและความหวาดกลัวในตัวเขา...

       

      แต่...ช่างมันสิ  

       

      “ออกไปเดินเล่นข้างนอกด้วยกันไหม?” เขาเอ่ยถามเธอด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

                 

      และมันทำให้เธออดหมั่นไส้ไม่ได้  ทั้งๆ ที่เธอแสดงออกต่อเขาด้วยท่าทีรำคาญแล้วแท้ๆ  ยังจะมาตีสีหน้าระรื่นชวนออกไปเดินเล่นข้างนอกอีก “ไม่  ฉันไม่อยากออกไปไหนทั้งนั้น”

                 

      “ไม่อยากไปไหนเลยอย่างนั้นเหรอ?” เขาถามย้ำกลับมาอีกครั้ง

       

      “ใช่  ไม่อยากไปไหนทั้งนั้น” ไฮบาระพูด  แต่เมื่อสายตาเหลือบไปยังจอโทรทัศน์  น้ำเสียงอันมั่นคงของเธอก็อดที่จะสั่นเล็กน้อยไม่ได้

       

      นั่นทำให้สึบารุแย้มยิ้มกว้างกว่าเก่า “แทนที่จะเฝ้าดูงานอยู่หน้าจอโทรทัศน์แบบนี้  สู้ออกไปชมทัศนียภาพความสวยงามของงานวันคริสต์มาสข้างนอกกับตาตัวเองเลยไม่ดีกว่าเหรอ?”

       

      “หึ” ไฮบาระพ่นหายใจน้อยๆ อย่างไม่พอใจที่เขาสามารถอ่านออกว่าเธออยากจะออกไปเดินเที่ยวชมงานวันคริสต์มาส

       

      “ตกลงว่าไง..?”

       

      “ไปก็ได้”

                 

      @@@@@@@@@@@@@@@

                 

      ร่างสูงของสึบารุพาไฮบาระออกมาเดินเล่นตามถนนสายหนึ่งซึ่งเป็นการย่านการค้า  ร้านรวงทั้งสองฟากฝั่งถนนต่างก็ประดับตกแต่งร้านด้วยไฟหลากสีสันเพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาชมสินค้าภายในร้าน  และผู้คนมากหน้าหลายตาต่างก็เดินเข้าร้านนั้นเดินออกร้านนี้กันไปมา ยังไม่นับต้นไม้ริมทางที่ถูกประดับด้วยไฟจนเต็มต้นไปหมด  ภาพเบื้องหน้านี้สร้างความพอใจให้กับไฮบาระไม่น้อย  ถ้าหากว่าคนที่เธอมาด้วยไม่ใช่สึบารุแล้วล่ะก็...บางทีเธออาจจะเดินเข้าไปถ่ายรูปบรรยากาศความงดงามนี้เก็บเอาไว้แล้วก็ได้

       

      “เธอไม่ลองใส่ชุดซานต้าคลอสดูบ้างเหรอ?” สึบารุเอ่ยถามขึ้นมา  เมื่อเขาพาเธอเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าร้านขายเสื้อผ้าเด็กร้านหนึ่ง  เพราะด้านหน้าของร้านเป็นกระจกใส  ทำให้มองเห็นเสื้อผ้าภายในร้านได้  และตัวที่สึบารุรู้สึกสะดุดตาก็เห็นจะเป็นชุดกระโปรงสีแดงสดที่มีผ้าคลุมสีเดียวกันซึ่งถูกขลิบปกคอและชายกระโปรงด้วยขนสัตว์สีขาวสะอาดตา  พร้อมทั้งหมวกและถุงมือที่ดูเข้าชุดกัน

       

      “ฉันโตมากพอที่จะไม่แต่งตัวแบบนั้นแล้ว” ไฮบาระตอบกลับ  หากแต่สายตาของเธอก็จ้องมองชุดนั้นด้วยความรู้สึกสนใจไม่น้อย

       

      “ไม่เสียหายอะไรหรอกนะ  ถ้าเธอจะแต่งตัวแบบนั้นน่ะ” คนตัวสูงกว่าก้มหน้ามองเธอพร้อมรอยยิ้ม

       

      สุดท้าย  ไฮบาระก็ต้องแวะเข้าไปใช้บริการร้านนั้นจนได้...

       

      เธอเดินออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยชุดสีแดงสดที่ว่านั้น ด้วยใบหน้าราบเรียบ  หรือบางทีอาจจะต้องบอกว่า..ใบหน้าที่แสดงออกมาว่าราบเรียบเพราะพยายามที่จะปิดกั้นความพึงใจเล็กๆ เอาไว้

       

      “มองอะไรไม่ทราบ?” ไฮบาระเอ่ยถามสึบารุ  เมื่อรู้สึกว่าเขาจ้องเธอมากเกินไปแล้ว

       

      “ฉันแค่คิดว่าเธอเหมาะกับสีแดงมากๆ เลยก็เท่านั้นเอง” ชายหนุ่มตอบกลับไป  โดยแอบหวังไว้เล็กน้อยว่าอาจจะได้เห็นเธอแสดงท่าทีขัดเขินอย่างที่เด็กทั่วไปจะแสดงออกมาเมื่อถูกเอ่ยชม 

       

      แต่นั่นคงไม่ใช่กรณีของไฮบาระ

       

      “งั้นฉันจะไปเปลี่ยนชุด” เด็กหญิงว่า  ก่อนจะหมุนตัวทำท่าจะเดินกลับเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกครั้ง  หากแต่สึบารุก็คว้าแขนเธอไว้ได้ทัน  แล้วพาเธอเดินออกมาจากร้านอย่างรวดเร็ว 

       

      “คำชมของฉันมันไม่น่าดีใจขนาดนั้นเลยเหรอ?”

       

      “ก็คงใช่”

       

      คำตอบที่มาพร้อมกับใบหน้าที่เชิดหนีไปนั้นพาให้สึบารุต้องหัวเราะออกมาน้อยๆ  ก่อนจะเปลี่ยนข้อหัวการสนทนา “ฉันว่าเราเดินไปที่ต้นคริสต์มาสต้นนั้นกันเถอะนะ” ว่าพร้อมกับชี้มือไปยังต้นคริสต์มาสต้นใหญ่ที่สามารถมองเห็นจากระยะไกลพอสมควรได้

       

      “อืม” ไฮบาระตอบรับและเดินตามหลังของสึบารุไป

       

       

      ทั้งคู่หยุดยืนที่หน้าต้นไม้ใหญ่ที่ถูกประดับด้วยไฟหลากสีสัน  ใกล้ๆ กันนั้นมีร้านขายแก้วใส่เทียนที่จะใช้จุดเพื่ออธิษฐานขอพรกับพระเจ้าอยู่  สึบารุเดินไปซื้อมันมาหนึ่งอัน  ก่อนจะยื่นให้กับไฮบาระ

       

      เธอมองเขาด้วยความไม่เข้าใจว่ายื่นมันมาให้เธอทำไม “ฉันไม่เอาหรอก”

       

      “ทำไมล่ะ?  เธอไม่อยากอธิษฐานขอพรอะไรสักหน่อยเหรอ?” เขาถามกลับ  และต้องแปลกใจเมื่อเห็นใบหน้าของเด็กหญิงชุดสีแดงสดหม่นลงอย่างเห็นได้ชัด  แม้เจ้าตัวจะพยายามปั้นหน้าว่าไม่สนใจจะอธิษฐานก็เถอะ

       

      “พระเจ้าคงไม่อยากประทานสิ่งใดให้กับฉันหรอก”

       

      เกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะหนึ่ง  ก่อนที่สึบารุจะเป็นฝ่ายทำลายความเงียบระหว่างพวกเขาลง “จะรู้ได้ยังไง  ในเมื่อเธอยังไม่ได้ลองอธิษฐานอะไรเลย”

       

      เจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลอมแดงมองหน้าเขาครู่หนึ่ง  ก่อนจะถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้  “ก็ได้”

       

      ชายหนุ่มยิ้มอ่อนโยนให้เธอ แล้วส่งแก้วใส่เทียนที่ถูกจุดไฟเอาไว้แล้วให้กับไฮบาระ  เธอรับมาไว้ในมือตน  แล้วก้มหน้าลงอธิษฐานสิ่งที่เธออยากจะขอภายในใจของตน..

       

      ..ขอให้หนีพ้นจากสิ่งที่กำลังตามล่าตัวเองอยู่  แต่ถ้าหากไม่สามารถหนีพวกมันพ้นได้  ก็ขอให้เรื่องราวจบลงที่ตัวของฉันเอง  อย่าให้คนรอบข้างหรือใครก็ตามต้องเดือดร้อนไปกับเรื่องนี้ด้วยเลยนะคะ..

       

      เมื่อจบคำอธิษฐาน  ไฮบาระก็เงยหน้าขึ้นมา...สบเข้ากับนัยน์ตาคมใต้กรอบแว่นของร่างสูงเข้าพอดี

       

      “ไม่ต้องเป็นกังวลไปหรอก  เคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าฉันจะปกป้องเธอเองน่ะ”

       

      “หึ” ร่างเล็กเหยียดยิ้ม  ก่อนจะถามกลับไป “พูดอย่างกับรู้เลยนะ  ว่าฉันอธิษฐานอะไรไป”

       

      ริมฝีปากเรียวยกยิ้มขึ้นที่มุมปากราวกับตอบรับรอยยิ้มเหยียดหยันนั้นของเธอ  หรือบางที...อาจจะเป็นรอยยิ้มแห่งความมั่นใจว่าเขา...

       

      “เมื่อตอนคดีมิสเทอรี่เทรน  ฉันจำได้ว่าพูดอะไรบางอย่างกับเธอไปนะ  และฉันก็เชื่อด้วยว่าเธอยังไม่ลืมคำพูดของฉันแน่นอน”

       

      ...ฉันอ่านการเคลื่อนไหวของเธอได้หมดเลย...

       

      ...รู้จักเธอดี

       

      “หึ  รู้ใจฉันดีจริงๆ เลยนะ” เธอว่ากลับด้วยน้ำเสียงประชดประชัน  ซึ่งเขาก็ทำเพียงยิ้มรับเท่านั้น “แล้วคุณไม่อธิษฐานอะไรหน่อยเหรอ?” ถามพร้อมกับยื่นเทียนให้กับเขา  แต่สึบารุกลับโบกมือปฏิเสธ

       

      “ไม่ล่ะ  สิ่งที่ฉันอยากอธิษฐานคงไม่เป็นจริงหรอก”

       

      “รู้ได้ยังไง  ในเมื่อคุณยังไม่ได้อธิษฐานอะไรเลย” ไฮบาระตั้งใจยกเอาคำพูดของเขามากล่าวกับตัวเขาเอง

       

      “เพราะฉันคิดว่าถึงจะขอ...มันก็คงไม่ได้ผลอยู่ดีนั่นล่ะ” เขาว่า

       

      ร่างเล็กในชุดสีแดงขมวดคิ้วเล็กน้อย แอบไม่พอใจที่ผู้ชายคนนี้ดูจะกวนอารมณ์เธอมากเกินเหตุไปแล้ว  ในตอนที่เธอไม่อธิษฐาน ก็หาคำพูดมาบังคับทางอ้อมให้เธอยอมอธิษฐานจนได้  แต่เมื่อถึงคราตนเอง เขากลับบอกว่าคำอธิฐานของเขามันคงเป็นจริงไปไม่ได้  “แล้วคุณจะขออะไรล่ะ?”

       

      “อืม~ ขอให้เธอยอมลดอคติและยอมเชื่อใจฉันบ้าง...ล่ะมั้ง”

       

      คำตอบที่ทำเอาร่างเล็กถึงกับต้องเบิกตาขึ้นเล็กน้อยด้วยความตะลึงอย่างไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เขาบอกมา  ดวงตากลมโตจ้องสบกับนัยน์ตาหลังกรอบแว่นคู่นั้น “นั่นสินะ  ของแบบนี้ไม่ต้องอธิษฐานขอกับพระเจ้าหรอก”

       

      “ว้า~” คนตัวสูงกว่าแสร้งทำหน้าเศร้ากับคำพูดของเด็กหญิง ก่อนจะต้องมองเธอกลับด้วยแววตาไม่เข้าใจเมื่อได้ฟังคำพูดของเธอต่อ

       

      “ของแบบนี้...ขอกับตัวฉันเองตรงๆ เลยจะไม่ดีกว่าเหรอ?”

       

      เขาหัวเราะน้อยๆ “แล้วเธอจะให้ฉันได้เหรอ?”

       

      “นั่นสินะ...” ไฮบาระว่า  ก่อนจะหันไปวางแก้วเทียนไว้ยังที่ที่จัดให้วาง  แล้วหันหลังเดินหนีออกไปอย่างที่ไม่คิดจะรอสึบารุเลยแม้แต่น้อย

       

      “จะกลับแล้วงั้นเหรอ?” ร่างสูงเอ่ยถามไล่หลัง

       

      เธอหันมาส่ายหน้าแทนคำตอบ  ก่อนจะเอ่ยประโยคที่สึบารุคิดว่ามันคงจะไม่มีทางออกมาจากปากเธออย่างแน่นอนออกมา “ถ้าคุณยังว่างอยู่ จะชวนฉันไปทานเค้กก็ได้นะ”

       

      “จริงๆ แล้วเธอต้องเป็นฝ่ายชวนฉันไม่ใช่เหรอ?” สึบารุถามกลับด้วยน้ำเสียงขบขันด้วยต้องการเอ่ยแซวคนตรงหน้า  หากแต่ไฮบาระกลับทำหน้าบึ้งตึงใส่เขา

       

      “ถ้าไม่ชวน...ฉันก็จะกลับ” ว่าแล้วก็เดินหนีต่อไปทันที  ทำให้สึบารุได้ส่ายหน้าไปมากับความปากไม่ตรงกับใจของอีกคน  แล้วรีบเอ่ยชวนก่อนที่เธอจะเดินหนีไปไกล

       

      “ให้เกียรติไปทานเค้กกับผมได้ไหมครับ  คุณหนู ?”

       

      เด็กหญิงในชุดสีแดงสดหันกลับมามองหน้าเขา  ก่อนจะเผยรอยยิ้มบางๆ ออกมา “ก็ได้”

       

      แล้วทั้งคู่ก็เดินไปด้วยกันเพื่อมองหาร้านเค้กที่คิดว่าอร่อยที่สุด..

       

       

      บรรยากาศ แสงสี  และเสียงเพลงที่เปิดคลองานเทศกาลเบาๆ พาให้ภาพตรงหน้างดงามไปหมด  ไฮบาระไม่รู้ว่าตัวเองไม่ได้ให้ความสนใจกับงานเทศกาลแบบนี้มานานแค่ไหนกันแล้ว  เธอยิ้มออกมาเล็กน้อย  บางที...อาจจะตั้งแต่ตอนที่เธอหนีออกมาจากองค์กรก็เป็นได้..

       

      “อยากกินเค้กร้านไหนล่ะ?” คนข้างๆ เอ่ยถามขึ้นมา 

       

      “แล้วแต่คนชวนสิ” ตอบกลับไปอย่างไม่ค่อยใส่ใจนัก

       

      “แปลกนะ” สึบารุพูดขัดขึ้นมาอีกครั้ง 

       

      ร่างเล็กหันไปมองหน้าเขาอย่างต้องการคำตอบว่าเพราะสิ่งใดจึงทำให้เขาเอ่ยออกมาเช่นนั้น  หากแต่คนตัวสูงกว่ากลับไม่มีทีท่าว่าจะเอ่ยอะไรต่อ  “แปลกยังไง?”

       

      “ก็เธอยอมให้เกียรติไปกินเค้กกับฉันแบบนี้  มันไม่คิดว่ามันแปลกรึไง” เขาหันมาตอบพร้อมรอยยิ้ม “ปกติเธอออกจะทำท่าทางรังเกียจฉันออกไม่ใช่เหรอ??”

       

      “เปล่าซะหน่อย” เธอว่า “แล้วก็ไม่เห็นจะแปลกอะไรตรงไหน”

       

      “แปลกมากเลยต่างหาก” สึบารุแย้ง

       

      “งั้นคงเป็นเพราะ...” เด็กหญิงเว้นจังหวะคำพูดของตนไป  เลื่อนสายตาไปมองใบหน้าหล่อคมของร่างสูง  และมันก็แทบทำให้เธอยิ้มขันออกมา  เพราะถ้าเธออ่านไม่ผิดล่ะก็...สีหน้าของเขาบ่งบอกว่าต้องการรู้คำตอบของเธอ..มาก “...ฉันแต่งตัวเป็นซานต้าคลอสล่ะมั้ง”

       

      “จะมอบของขวัญให้ฉันสินะ” สึบารุพูดอย่างรู้ทันคำหมายของคำตอบนั้น “ของขวัญที่เป็นคำว่า ความเชื่อใจน่ะ?”

       

      “พูดบ้าๆ” ไฮบาระตีสีหน้าเรียบนิ่งตอบกลับไป “ฉันก็แค่ยอม ลดอคติก็เท่านั้นเอง”

       

      สึบารุหัวเราะให้กับคำตอบของเธออีกครั้ง “ก็ยังดี” เขาว่า  ก่อนจะพาเธอเดินต่อ

       

      ไฮบาระไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงกล้าออกมาเดินชมงานกับคนข้างๆ นี่ได้  และที่ไม่น่าเป็นไปได้กว่านั้นก็คือการเอ่ยปากบอกให้เขา ชวนเธอไปทานเค้กด้วยกัน  ...หรือเพราะจากหลายๆ เหตุการณ์ที่ได้ผ่านพ้นร่วมกันมา มันทำให้เธอพอที่จะ...เชื่อใจ...เขาได้บ้าง แต่คงไม่มีทางหรอก เธอคงแค่ ลดอคติจริงๆ นั่นแหละ

       

      ..นั่นสินะ  อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้..   

       

       

      โดยที่ตัวเธอเองไม่คาดคิดว่าตัวเองจะทำ....มือเล็กๆ ของเธอก็เอื้อมไปคว้ามือของอีกคนเอาไว้เสียแล้ว..

       

      เจ้าของใบหน้าหล่อคมหันมามองเธอทันทีด้วยความแปลกใจ  และคำตอบที่ได้รับกลับไปจากเธอก็ทำให้เขายิ้มออกมา “คนมันเยอะ ฉันเกรงว่าเราจะพลัดหลงกันได้”

       

      “นั่นสินะ” ร่างสูงตอบรับ  ก่อนจะกระชับมือเล็กที่อยู่ที่มือของเขาเอาไว้แน่น

       

      บัดนี้  ตัวแทนแห่งความบริสุทธิ์ในค่ำคืนศักดิ์สิทธิ์ได้โปรยปรายลงมาแล้ว  สีขาวที่เด่นชัดในความมืดของค่ำคืน  ที่แม้แต่แสงไฟจากร้านรวงใดๆ ก็ไม่อาจกลบความงามอันพิสุทธิ์ของมันได้

       

      ..หิมะตกแล้ว..

       

      แต่ไฮบาระกลับค้นพบว่าเธอไม่รู้สึกหนาวเลยแม้แต่น้อย  อาจเป็นเพราะชุดที่ใส่อยู่นั้นมันหนามากพอ...หรืออาจจะเป็นเพราะความอบอุ่นจากมือของอีกคนที่แผ่ซ่านผ่านมายังตัวเธอกันแน่นะ..?

       

      ..ช่างมันเถอะ  ยังไงมันก็เป็นเพราะชุดอยู่แล้วนี่นะ..

       

      “นี่..” เธอเอ่ยเรียกเขาเสียงเบา  ทำให้เจ้าของมืออันอบอุ่นหันกลับมามองเธออีกครั้ง  และนัยน์ตาคมคู่นั้นของเขามันคงจะสามารถอ่านเธอได้ทะลุปรุโปร่งอย่างที่เขาโม้เอาไว้จริงๆ  เพราะจู่ๆ เขาก็เอ่ยคำพูดที่เธอคิดจะเอ่ยขึ้นมา...พร้อมๆ กัน

       

       

      MERRY CHRISTMAS




       












      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×